ประกาศใช้อย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับนโยบาย “ภาษีการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ” (国際観光旅客税) หรือที่เรียกอีกอย่างว่า “ภาษีออกนอกประเทศ” (出国税) ที่จะเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม 2019 เป็นต้นไป
สำหรับนโยบายภาษีใหม่นี้ จะทำการเก็บภาษีจากชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติที่เดินทางออกนอกประเทศญี่ปุ่นทางเครื่องบินและทางเรือ โดยจะเรียกเก็บพร้อมค่าตั๋วเครื่องบินหรือตั๋วเรือในลักษณะของภาษีขาออก (Departure Tax หรือ Sayonara Tax) เป็นจำนวน 1,000 เยนต่อคน (ประมาณ 300 บาท) แต่จะยกเว้นสำหรับเด็กอายุไม่ถึง 2 ขวบ รวมถึงผู้โดยสารที่แวะจอดพักหรือเปลี่ยนเครื่อง และอยู่ในญี่ปุ่นไม่ถึง 24 ชั่วโมง
โดยเมื่อดูตัวเลขในปี 2017 พบว่า มีผู้เดินทางออกจากญี่ปุ่นกว่า 45 ล้านครั้ง ซึ่งหากมีการเก็บภาษีขาออกจะทำให้รัฐบาลมีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 45,000 ล้านเยนเลยทีเดียว (มากกว่างบประมาณของกระทรวงการท่องเที่ยวญี่ปุ่นถึงสองเท่า )
อย่างไรก็ตาม นโนบายการเก็บภาษีออกนอกประเทศ ถือเป็นการออกภาษีใหม่ในรอบ 27 ปีของประเทศญี่ปุ่น โดยมีเป้าหมายเพื่อนำไปใช้กระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว รวมถึงการเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในแหล่งท่องเที่ยว หลังจากในปี 2017 ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวช่างชาติเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นถึง 28.69 ล้านคน
สำหรับเป้าหมายระยะสั้นของรัฐบาลญี่ปุ่นคือการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวเป็น 40 ล้านคนในปี 2020 จากมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ณ กรุงโตเกียว ส่วนเป้าหมายระยะยาวคือ 60 ล้านคนในปี 2030 ซึ่งทางรัฐบาลวางเป้าหมายที่จะนำรายได้จากการเก็บภาษีออกนอกประเทศนี้ไปใช้ในการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวต่างๆ รวมถึงการทำแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวญี่ปุ่นทั่วโลก
ภาษีขาออกไม่ใช่เรื่องใหม่
สำหรับในบางประเทศได้มีการเก็บภาษีการเดินทางออกนอกประเทศ หรือ Departure Tax มาก่อนแล้ว เช่น ออสเตรเลีย เก็บในอัตรา 60 เหรียญออสเตรเลีย (ประมาณ 1,450 บาท), เกาหลีใต้ เก็บในอัตรา 10,000 วอน (ประมาณ 300 บาท), สหรัฐอเมริกา 14 ดอลลาร์ (ประมาณ 450 บาท)
ผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวไทย
สำหรับประเทศไทยที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินไปเข้าประเทศญี่ปุ่นราว 9.4 แสนคนในปี 2017 ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากการยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี 2013
แน่นอนว่านโยบายภาษีดังกล่าว จะส่งผลให้ค่าตั๋วเครื่องบินขาออกจากญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นประมาณ 300 บาท ซึ่งก็อาจจะกระทบกับผู้ที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางอยู่บ้าง แต่เมื่อเทียบกับการที่ไม่ต้องเสียค่าทำวีซ่าก็ถือว่าเพิ่มขึ้นไม่มากนัก
ที่มา : mainichi 1 , mainichi 2 , asahi , channelnewsasia , japantimes
Comments
Content Writer | คนเขียนBlog | GenY85 | บ้าบอล | Chelsea | บางทีก็ติ่งเกาหลี | ทาสแมว | ชอบบ่นนั่นนี่ | ชอบกินชอบเที่ยว | กำลังเก็บ Lv.ในโลกกว้าง | สะสม Exp.เรื่องถ่ายภาพ
Contact Me : smsuki125@gmail.com